โรคเก๊าท์ ป้องกันได้ เริ่มต้นจากตัวเราเอง

ปรับพฤติกรรมรักษาโรคเก๊าท์

โรคเก๊าท์เกิดจากการมีกรดยูริคสะสมในร่างกายมากเกินไป แล้วตกผลึกเป็นรูปของเกลือยูเรต การตกผลึกของเกลือยูเรตที่ผิดปกติ จะทำให้เกิดการอักเสบ วิธีการป้องกันและรักษาโรคเก๊าท์นั้น สามารถเริ่มต้นได้ที่ตัวเราเอง เริ่มจากการ ปรับพฤติกรรมรักษาโรคเก๊าท์ ก็จะช่วยให้เรามีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้นได้

อาการแบบไหนถึงใช่ “เก๊าท์”

• ข้ออักเสบอย่างรวดเร็วและรุนแรง โดยมักจะเป็น ที่ข้อเท้า นิ้วหัวแม่เท้า เข่า หรือที่อื่นๆ โดยจะมีอาการอักเสบบวมร้อน กดแล้วรู้สึกเจ็บ รู้สึกปวดเวลาเดิน หรือไม่สามารถเดินได้เลย ส่วนใหญ่อาการอักเสบจะหายได้เอง ภายในเวลา 1 สัปดาห์ เมื่อได้รับยาก็จะหายเร็วขึ้น เมื่อหายแล้วก็สามารถ กลับมาเป็นซ้ำได้อีกเรื่อยๆ ทำให้เกิดอาการข้ออักเสบเป็นเป็นหายหาย ระยะแรกมักจะไม่เป็นบ่อย แต่เมื่อทิ้งไว้ไม่ได้รับการรักษาที่ถูกวิธี ก็จะเป็นบ่อยขึ้นเรื่อยๆ
• มีก้อนใต้ผิวหนัง
• ไตอักเสบ
• เกิดนิ่วในทางเดินปัสสาวะ

สิ่งที่กระตุ้นให้เกิดข้ออักเสบ

• การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เช่น เหล้า เบียร์
• การออกกำลังกายมากๆ
• การรับประทานอาหารที่มีสารพิวรีน เช่นเครื่องในสัตว์ ซึ่งเมื่อรับเข้าไปในร่างกายแล้ว จะถูกเปลี่ยนเป็นกรดยูริคปริมาณมาก ทำให้เกิดการตกผลึกของเกลือยูเรต ที่ผิดปกติ
• การได้รับยาบางอย่างเช่น ยาขับปัสสาวะบางชนิด
• การใช้ยาบางชนิดที่ไม่ถูกวิธี เช่นยารักษาโรคเก๊าท์

อาหารเสี่ยงเก๊าท์

อาหารที่มีพิวรีนสูง

คือ อาหารที่มีปริมาณพิวรีน มากกว่า 150 มิลลิกรัมต่ออาหาร 100 กรัม ควรงดอาหารดังต่อไปนี้ ตับอ่อน เครื่องในสัตว์ทุกชนิด ไข่ปลา หอย ปลาไส้ตัน ปลาอินทรีย์ ปลาดุก ปลาซาร์ดีนกระป๋อง แตงกวา กุ้งชีแฮ้ มันสมองวัว ชะอม สะเดา กระถิน ซุปก้อน น้ำสลัดเนื้อ ถั่วดำ ถั่วแดง ถั่วเขียว ถั่วเหลือง

อาหารที่มีพิวรีนปานกลาง

คือ อาหารที่มีปริมาณพิวรีน 50 ถึง 150 มิลลิกรัมต่ออาหาร 100 กรัม ควรหลีกเลี่ยงรับประทาน ได้แก่เนื้อวัว เนื้อไก่ เนื้อแกะ ปลากระพงแดง ปลาหมึก ปู ใบขี้เหล็ก สะตอ ข้าวโอ๊ต ผักโขม เมล็ดถั่วลันเตา หน่อไม้ เนื้อหมู เป็นต้น

ปรับพฤติกรรมรักษาโรคเก๊าท์

• งดดื่มสุรา
• หลีกเลี่ยงการนอนดึก
• ลดความเครียด
• บุคคลที่เป็นภาวะโรคอ้วนควรลดน้ำหนัก ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
• ควรรักษาโรคประจำตัวอื่นๆ ให้หาย เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน
• ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อเพิ่มการขับยูริคออกจากร่างกาย
• หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีสารพิวรีนสูง เช่น เครื่องในสัตว์ เนื้อแดง ยอดผัก หรือต้นอ่อนพืช ระยะที่มีข้ออักเสบ
• ควรลดการใช้งาน หรือลงน้ำหนัก บนข้อที่มีอาการอักเสบ
• ควรใช้ความร้อนประคบ หรือแค่บริเวณที่มีการอักเสบในน้ำอุ่น
• หลีกเลี่ยงการนวดที่รุนแรง หรือ บีบรัดแน่นเกินไป
• รับประทานยาต้านการอักเสบตามที่แพทย์สั่ง
• หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของแอสไพริน หรือสเตียรอยด์เอง เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมาได้

โรคเก๊าท์กับชาลำไยสวนในเวียง

สาเหตุที่ชาลำไยสวนในเวียงสามารถรักษาผู้ป่วยโรคเก๊าท์ได้ เพราะในเปลือกและเมล็ดลำไยมีสารฟีนอลิค (Phenolic compounds) สูง ที่วิจัยโดยมหาวิทยาลัยสุรนารี แสดงว่าสารออกฤทธิ์สำคัญ 3 ตัวได้แก่ gallic acid, corilagin และ ellagic acid เป็นองค์ประกอบ ซึ่งสารออกฤทธิ์ดังกล่าว 3 ตัวนี้ มีฤทธิ์ เป็นสาร Anit-Oxidant (ช่วยต้านอนุมูลอิสระ) Anti-Inflammatory (ช่วยต้านการอักเสบเรื้อรังในผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อม) และมีคุณสมบัติยับยังการสร้าง Uric (คล้ายยารักษาในผู้ป่วยโรคเก๊าต์) จึงสามารถบรรเทาอาการปวดจากโรคเก๊าท์ได้จนถึงรักษาให้หายขาดควบคู่ไปกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม