การอักเสบที่เป็นสาเหตุของโรค NCD กับยารักษาการอักเสบเรื้อรัง

ระบบป้องกันตนเองของร่างกาย
การอักเสบ เป็นระบบคุ้มกันสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย

การอักเสบ เป็นผลจากขบวนการที่ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายทำงาน เพื่อต้านอันตรายจากสิ่งแปลกปลอมภายนอก แต่ในปัจจุบัน มีกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCD non-communicable diseases) ที่เกิดจากพฤติกรรมซ้ำซาก ทำให้ระบบภูมิต้านทางของเราสั่งงานไปเรื่อยๆ จนเกิดทำลายอวัยวะต่างในภายหลัง ที่เรียกว่าเป็นอาการอักเสบเรื้อรัง เช่น ถ้าเกิดพฤติกรรมซ้ำซาก อย่างการวิ่งผิดวิธี น้ำหนักตัวที่มากเกินไป ยกของผิดวิธี ทำงานที่ใช้ข้อข่ามากๆ จนเกิดการอักเสบขึ้นที่ข้อเข่า หากปล่อยไว้โดยที่ไม่มีการรักษา หรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจนเกิดเป็นการอักเสบเรื้อรัง สุดท้ายจะก่อให้เเกิดเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมได้ในที่สุด หรือ ถ้าเกิดกับเส้นเลือด การที่เส้นเลือดอักเสบบวมเรื้อรัง จนเลือดไปเลี้ยงอวัยวะสำคัญไม่พอ จะเป็นสาเหตุให้เกิดโรคเส้นเลือดอุดตัน หรือ โรคหัวใจ ได้ในที่สุด ขึ้นอยู่กับว่าเส้นเลือดตรงจุดไหนตีบตัน และส่งผลต่ออวัยวะอะไร อย่าง เช่น โรคความจำเสื่อม ที่เกิดอาจะได้ทั้งจากเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงสมองอุดตัน หรือ จากการอักเสบที่ปลายประสาทอย่างเรื้อรัง เป็นต้น

การอักเสบเป็นปฏิกิริยาของร่างกายที่ตอบสนองต่ออันตราย โดยผ่านทางระบบการไหลเวียนของเลือดเป็นสำคัญ การอักเสบ มี 2 ชนิด

  1. การอักเสบเฉียบพลัน Acute inflammation เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือด ที่นำเซลล์เม็ดเลือดขาวไปสู่บริเวณที่บาดเจ็บของเซลล์หรือเนื้อเยื่อนั้นๆ และต่อมาจะเกิดกระบวนการเก็บกินและทำลายสิ่งแปลกปลอมที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย (สารพิษ หรือ เชื้อโรค) ผลที่เกิดตามมาอาจเกิดได้ 4 ลักษณะ
    • Resolution คือ การที่ร่างกายสามารถซ่อมแซมเนื้อเยื่อกลับสู่ปรกติ
    • Scar คือ การที่เกิดพังผืดขึ้นแทนที่เนื้อเยื่อที่ถูกทำลาย
    • Abscess คือ การเกิดเป็นฝี หากมีการติดเชื้อ
    • Chronic inflammation คือ อาการสุดท้าย ที่ร่างกายไม่สามารถกำจัดสิ่งแปลกปลอมได้หมด โดยที่ขบวนการตอบโต้จากภูมิคุ้มกันยังคงดำเนินต่อ เนื่องไม่หายขาด หรือที่เรียกว่าการอักเสบเรื้อรัง
  2. การอักเสบเรื้อรัง หรือ Chronic Inflammation เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายส่งเซลล์เม็ดเลือดขาวออกไปกำจัดสิ่งแปลกปลอมเป็นเวลานาน และมีข้อสันนิษฐานทางการแพทย์ว่า การทำงานอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้ระบบการสั่งงานของภูมิคุ้มกันเริ่มบกพร่อง และยังคงสั่งงานให้ทำลายสิ่งแปลกปลอมในร่างกายต่อไป ในขณะที่สิ่งแปลกปลอมเริ่มหมดไป และไม่มีสิ่งใดให้ทำลาย ระบบภูมิคุ้มกันจะเริ่มหันกลับมาทำลายร่างกายของผู้ป่วย และก่อให้เกิดโรค NCD (non-communicable diseases) ต่างๆตามมา ขึ้นอยู่ว่าจะไปเกิดการอักเสบเรื้อรังที่ส่วนไหนของร่างกาย เช่น
    • Osteoarthritis (ข้อกระดูกอักเสบ) โดยภูมิต้านทานเข้าทำลายเนื้อกระดูกอ่อนจะหมด ข้อกระดูกเสียดสีกันจนเกิดความเจ็บปวด
    • Heart disease (โรคหัวใจ) หากเกิดการอับเสบตรงเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ ทำให้เส้นเลือดบวมตีบ เลือดจะส่งไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจไม่พอ ทำให้หัวใจวายได้ในที่สุด
    • Stroke (โรคสมองถูกทำลายจากการขาดเลือด) หากเส้นเลือดไปอุดตันที่สมอง การไหลเวียนเลือดไม่สะดวกทำให้เนื้อสมองตายเป็นอัมพาตได้
    • Alzbeimers (ความจำเสื่อม) หากเส้นเลือดอุดตัวในสมองส่วนความจำ จะทำเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคความจำเสื่อม
    • Kidney disease (โรคไตอักเสบ) การที่ภูมิคุ้มกันเข้าไปทำลายเนื้อไตให้เสื่อม สามารถทำให้เกิดโรคไตอักเสบ

และโรคอื่นๆที่ถึงแม้ไม่ใช่สาเหตุหลัก แต่ก็มีการสันนิษฐานว่า การอักเสบเรื้อรังเป็นหนึ่งของในความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดดังกล่าวขึ้น เช่น

    • Lower respiratory tr. Disease (โรคทางเดินหายในส่วนล่างอักเสบ) คือการอักเสบของทางเดินหายใจ
    • Obesity (โรคอ้วน) และ Diabetes (เบาหวาน) เกิดการที่ตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง ทำให้การหลั่งอินซูลินลดลง
    • Cancer(โรคมะเร็ง) ที่เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม ความบกพร่องของระบบภูมิคุ้มกัน

การรักษา

ในรายที่เกิดการอักเสบแบบเฉียบพลัน ระบบคุ้มกันของร่างกายจะก่อให้เกิดกระบวนการรักษาเอง หากเกิดรุนแรงควรไปหาแพทย์ให้เช่วยรักษา ส่วนการอักเสบเรื้อรังที่ภูมิคุ้มกันทำลายร่างกายตัวเอง ยังไม่รู้สาเหตุแน่ชัด และส่วนใหญ่จะรักษาตามอาการและปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรค เช่นเดียวกับ โรคที่อยู่ในกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCD non-communicable diseases)  เหล่านี้ก็เช่นกันที่ไม่มียารักษาโดยตรง มีเพียงแต่ยารักษาตามอาการ และมักไม่ได้รับการส่งเสริมสนับสนุนจากผู้ผลิตยารายใหญ่เพื่อการรักษาให้หายขาด ผู้ป่วยส่วนมากมักจะต้องกินยาไปตลอดชีวิต และมีข้อกังขาว่าเหตุใดบริษัทยาขนาดใหญ่ของโลกเกือบทั้งหมด มุ่งแต่ทำวิจัยและผลิตยาประเภทที่ต้องกินตลอดชีวิต แทนที่จะทำการผลิตยาเพื่อการรักษา ในส่วนที่เลวร้ายไปมากกว่านั้น ยาที่ต้องกินตลอดชีวิต มักก่อให้เกิดโรคอื่นๆตามมาในระยะยาว ผู้ป่วยมักรู้เท่าไม่ถึงการต่อสิ่งที่จะเกิดตามมา เนื่องอันตรายที่เกิดขึ้นจะเป็นลักษณะค่อยเป็นค่อยไป ด้วยเหตุนี้นี่เอง ที่ในปัจจุบันคนจำนวนหนึ่งจึงได้เปลี่ยนทัศนคติ และหันมาสนใจหายาทางเลือกเพื่อการรักษา และเริ่มหันมาใส่ใจในสุขภาพมากขึ้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรคแทนการรักษาที่ต้องกินเคมีต่อเนื่องตลอดไปชีวิต

ด้วยเหตุนี้สวนในเวียงจึงมุ่งมั่นที่จะค้นคว้า วิจัยต่อยอด และผลิต ชาลำไยอินทรีย์ ของสวนในเวียง เพื่อหวังให้เป็นอีกทางเลือกจากธรรมชาติเพื่อลดการอักเสบเรื่อรังได้ โดยไม่เสี่ยงกับการที่ต้องกินยาเคมีตลอดชีวิต

เพราะเนื่องจากในลำไยมีสารต้านการอักเสบอยู่เยอะมาก หากแพทย์ หรือเภสัชไทยสนใจที่จะทำการศึกษาวิจัย เพื่อให้เกิดการใช้ได้อย่างกว้างขวางได้ และจดขึ้นทะเบียนยาได้ ทั้งนี้เพราะการวิจัยต่อยอดให้ออกมารูปแบบของตัวยาจำต้องศึกษาเป็นสิบปีและมีค่าใช้จ่ายอีกสูงมาก แต่หากมองถึงผลระยะยาว จะเป็นการช่วยให้วงการสาธรณะสุขของไทยก้าวหน้าไปอีกขั้น และสามารถลดค่าใช้จ่าย ภาระทางด้านยาและแพทย์ในการรักษาโรคNCD ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปีและต้องนำเข้าจากต่างประเทศ

ชาสมุนไพร จากสวนในเวียง
อาหารเป็นยา